ใช่แล้ว 11 กม. ทริปนี้ปั่นสั้นมาก สนุกเหมือนเคย ออกจากบ้านเที่ยงพอดี ปั่นไป cafe’ velodome เติมพลังก่อนขึ้นเรือข้ามฟากไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรีรอบบ่ายโมง รับตั๋วมาดู กาญจนบุรี บ่ายสองครึ่ง ออกตั๋วให้ผิดนิหน่า รถไฟก็ใกล้ออกแล้ว เพราะขบวนที่กำลังจะออกนี่ละ รีบไปเปลี่ยนตั๋ว พับจักรยานขึ้นรถไฟ เลือกตู้ที่มีอ่างล้างหน้าจะได้วางจักรยาน
หาที่นั่งได้ปุ๊บรถไฟก็ออกทันทีขบวนนี้จอดน้อยดีจัง จอดแต่สถานีใหญ่ๆ แค่นั้น สองชั่วโมงผ่านไปอย่างไว ไม่ทันไรก็เตรียมตัวลงแล้ว สถานีราชบุรียังไม่ถึงดีคนก็ลงกัน พอรถไฟจอดที่สะพานก็คิดว่าถึงแล้วเลยลงตามเจ้าถิ่น ลงตรงนี้ใกล้ตลาด คนก็เลยลงกันเยอะ วิวสวยดีตรงนี้ ปั่นบนสะพานทางรถไฟก็สนุกดี ลมเย็นสบาย
ในที่สุดก็ต้องปั่นไปสถานีรถไฟราชบุรี ไปถามเวลารถไฟขากลับและแวะเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็ปั่นมุดในตลาด ได้ยินเสียงคุณป้าชมตามหลังมาว่าแต่งตัวน่ารักจัง ก็เล่นใส่สีสันขนาดนี้ สาวบอกว่ารถจะได้เห็นชัดเจน มาถึงที่นี่ก็ต้องพาไปถ่ายรูปกับกราฟฟิกตี้พอดีริมแม่น้ำมีงานขายของเราสองคนเลยเติมพลังทุเรียน
ดูจากแผนที่ไปได้ 3 ทาง ทางนี่น่าปั่นคือเลาะริมแม่น้ำ เพราะยังไม่เคยปั่นเส้นทางนี้เลย คิดว่าจะได้เห็นสายน้ำไปตลอดทาง ความจริงแล้วมีบ้านริมน้ำตลอดทาง ได้อีกบรรยากาศความเป็นชุมชนรถเยอะไปหน่อยเวลานี้ น่าจะเพราะตรงกับช่วงเลิกเรียน ต้องปั่นระวังมากขึ้น เลือกเส้นทางถนนที่มีเลยสี่หลัก เพื่อจะได้รถน้อยๆแต่ทางนี้รถไม่น้อยเลย ปั่นไปเรื่อยๆ ไหล่ทางจากกว้างหนึ่งเลนถนนหดหายไปแทบไม่เหลือ ทางนี้ไม่อยากแนะนำใครมาปั่นเลยนะ 3087
ต้องให้กำลังใจกันตลอดทาง เพราะพาสาวมือใหม่มาออกทริปค่อยๆปั่น เอาให้ถึง หันไปดู ทำไมยิ่งห่าง แบบนี้เราจอดดื่มน้ำกันก่อนจะได้มีแรง อีกไม่กี่ กม. ก็จะถึงแล้ว ภูเขาข้างหน้าที่เห็นนั่นไงแต่สาวกลับรู้สึกภูเขาไกลห่างออกไป นี่ไงข้ามถนนข้างหน้าก็ถึงแล้ว หินเขางู ตั้งแต่ทำสะพานและทางเดินรอบเขา ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกเยอะเลย จากที่เห็นคนมาวันนี้ วันอังคาร ยามเย็นยังมีคนขับรถมาจอด เดินถ่ายรูป ทั้งกล้องมือโปร และกล้องจากโทรศัพท์
ว้าวๆ มีทางจักรยานด้วย อยากรู้จังว่าจะปั่นไปไหน แต่สาวบอกคนส่วนใหญ่เลี้ยวขวากันหมดนะ เลยตามคนอื่นไป ไม่ได้ตรงไปตามเส้นทางจักรยาน เราสองคนยกจักรยานข้ามสะพาน ปั่นไปตามทางโค้งเขา สวยดีจัง คนไม่ค่อยเดินมาลึกๆกัน เกินคาด ทางเดินทำไว้อ้อมรอบเขาถึงจุดชมวิว มีทางลาดเข็นจักรยานช่วงที่มีบันไดหลายๆขั้นด้วย วันนี้เราผัดข้าวมาเอง มื้อเย็นนี้อร่อยเป็นพิเศษ นอกจากหิวแล้ว วิวยังสวย ข้าวหมดกล่องแล้วยังไม่อิ่มเลย
จุดหมายต่อไปสระว่ายน้ำที่มีวิวข้างหลังเป็นภูเขาในค่ายทหารช่วงนี้กลับมาฮิตว่ายน้ำอีกครั้ง หลังจากได้ลงสระก็พาติดใจรู้สึกกระหายน้ำอาการอยากว่ายน้ำคล้ายอยากปั่นจักรยาน หนึ่งในแผนปั่นช่วงนี้ก็เลยปักหมุดแวะว่ายน้ำทุกครั้งไป
หาข้อมูลเอาไว้ก่อนมาว่าสระว่ายน้ำค่ายบุรฉัตร มีให้คนนอกไม่ต้องเป็นสมาชิกมาว่ายเล่นได้ มีตั้ง 2 สระ ทั้งแบบ 50 ม. และ 25 ม. ถามพี่เจ้าถิ่นที่มานั่งชมวิว ได้คำแนะนำว่ามีทางลัดออกมาที่ค่ายจากเขาหินงูได้เลย แค่ปั่นข้ามเขามาก็เจอประตูค่าย สวัสดีนายทหารที่หน้าประตูพร้อมถามหาสระว่ายน้ำ ได้ตำตอบแล้วรีบปั่นไปตามทางว้าวๆ เห็นสระน้ำแล้วดี้ด้ามากมาย ค่าบริการไม่เป็นสมาชิก 20.-ว่ายได้ถึง 2 ทุ่ม สระเปิด 9 โมง ถ้าเป็นสมาชิกก็เหลือ 10.- ดีจริงๆขอฝากจักรยานก็ให้ด้วย นี่ก็ทุ่มแล้ว รีบไปเปลี่ยนชุดกระโดดลงน้ำดีกว่า เพิ่งเคยว่ายสระยาวๆแบบนี้ ว่ายได้ 4 รอบ ก็รู้สึกคนน้อยลงเรื่อยๆ มองดูเหลือแค่ 2 คนในสระ สักพักน้องทหารมาบอกว่าสระปิดแล้วครับ มืดตื๋อเลยบรรยากาศรอบๆ ที่พักก็ยังไม่ได้จอง ใจก็ร้องจะว่ายน้ำอีก
ถามน้องทหารที่ดูแลสระว่ามีที่พักแถวนี้ไหม น้องบอกค่ายทหารที่นี่มีเปิดบริการที่พักให้คนนอกด้วยนะ ไม่ต้องเป็นทหาร ไม่ต้องรู้จักใคร น้องทหารพยายามบอกทาง ถามพี่ทหารให้ช่วยวาดแผนที่ให้ สาวฟังอธิบายอย่างดีเลยให้นำทาง พอเราทักเท่านั้นความมั่นใจก็หดหาย ปั่นเลี้ยวกลับมาที่สระว่ายน้ำถามทางใหม่น้องทหารเลยอาสาจะซิ่งมอเตอร์ไซด์นำทางไปส่ง น่ารักสุดๆ มีมาจอดรอพวกเราแวะซื้อของด้วย สาวบอกน่าจะไปต่อเองได้แล้วเลยให้น้องทหารกลับพักผ่อนก่อน เดี๋ยวจะแวะไปกินข้าวกันก่อนเข้าที่พัก
ราคาที่ติดไว้ห้องแอร์ 500.- พัดลม 300.- พอสาวตกลงเลือกห้องแอร์น้องทหารที่ดูแลบอกว่า 300.- ถามย้ำอีกครั้งน้องทหารบอกว่าราคาใหม่แค่ 300.- ครับ จ่ายเงินรับกุญแจปั่นไปตึกหน้าขึ้นไปชั้นหนึ่งเลือกห้องพักตามเบอร์ที่พวงกุญแจได้เลยมัดจำไม่ต้องห้องกว้างมาก เปิดประตูมาถึงเจอห้องน้ำ มีน้ำอุ่นด้วยนะ ถัดมาเป็นห้องแต่งตัว แล้วถึงจะมีกระจกกั้นอีกทีเป็นห้องนอน มีระเบียงด้วย แต่เราต้องเตรียมอุปกรณ์มาเองนะ อย่างผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน เพราะที่เตรียมให้มีแค่ เตียงนอน หมอน ผ้าหม่แค่นั้นเอง แต่ถ้าขาดอะไรร้านค้าแถวนั้นก็มีให้ซื้อ ไปเดินร้านค้าในค่ายอาจเสียเงินมากกว่าที่ตั้งใจไปซื้อ ของใช้ลายทหารละลายตาไปหมด หยิบ จับ ลองได้ ไม่ว่ากัน ใจดีจริงๆ
แอร์เย็นฉ่ำหลับสบายถึงเช้าไม่อยากตื่น แผนว่ายน้ำก็เลยต้องพับไป แดดแรงมากอาจจะเกรียมได้ถ้าไปว่ายเวลานี้ 9 โมง เลยนอนต่อ กว่าจะออกมาก็เกือบเที่ยง ปั่นเที่ยวรอบค่ายก่อนเข้าเมืองขากลับเส้นนี้แนะนำปั่นสบายมาก ไหล่ทางกว้างตลอด ถนนสาย3291 ปั่นตรงมาเรื่อยๆ ผ่านเจดีย์หัก และเถ้าฮงไถ่ก็อยู่ในเส้นทางนี้ด้วย ข้างในโรงงานให้ปั่นจักรยานทะลุทุกจุด แค่บางส่วนไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป มุมที่ถ่ายรูปได้ก็มีเยอะอยู่
รีบซิ่งทำเวลา แต่ก็ไม่ลืมแวะร้านก๋วยเตี๋ยวไข่ กลัวไม่ทันรถไฟซื้อใส่กล่องกินบนรถไฟแทนละกัน แวะที่เดียวได้ซื้อขนมมาเป็นของฝากเพียบ รีบซิ่งสุดๆ ให้ทันรถไฟ พอไปถึงสถานีเจ้าหน้าที่บอกว่ารถไฟมาช้ากว่ากำหนด 40 นาที แบบนี้ก็กินรอที่สถานีสบายเลยระหว่างรอก็มีป้ามีลุงคนพื้นที่แบกขนมมาบ้าง เข็นมาจอดบ้าง ไม่ต้องกลัวอดเลย ราคามิตรภาพ รสชาติดีอีกด้วย
ขากลับขบวนนี้จอดทุกสถานียิบย่อยแต่ก็ใช้เวลา 2 ชม. นิดๆ พอกับขามา บนรถไฟมีป้าขนผักมาจากชุมพร ระหว่างทางก็เห็นป้าปอกผัก ใช้ทุกนาทีมีประโยชน์ ผักถุงโตขายหมดทันทีที่รถไฟจอดแบบนี้รู้แล้วว่าถ้าอยากได้ผักสดของทางใต้มาหาซื้อได้ที่ตลาดแถวสถานีรถไฟธนบุรีนี่เอง สาวก็เลยอุดหนุน สตอฝากป๊า ผักเหลียงฝากม้า ขนมฝากอี๊
จบทริปได้มาอีก 11 กม. รวบเป็น ทัวร์ริ่ง 22 กม. ไป-กลับ สาวมือใหม่บอกยังไม่เหนื่อย ถ้าให้ปั่นไกลกว่านี้ก็ไม่รู้ไหวไหม เราเลยข้ามเรือแล้วปั่นต่อถึงบ้าน เป็นทริปทัวร์ริ่งที่สั้นสุดตั้งแต่ปั่นมา ก็สนุกดีอีกแบบนะ ^^